วัดท้าวโคตร
ประวัติวัดท้าวโคตร
วัดท้าวโคตรเป็นวัดโบราณวัดหนึ่งได้สร้างขึ้นเมื่อปี
พ.ศ. 1861 ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนครศรีธรรมราช ริมถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง
อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเนื้อที่ประมาณ 19 ไร่ 2 งาน 53 ตารางวา
สถานที่ตั้งวัดนี้เคยเป็นนิวาสสถานของพราหมณ์มาก่อน เท่าที่พอสืบค้นได้ปรากฏว่าแต่เดิมในบริเวณนี้วัดตั้งอยู่หลายวัด
กล่าวคือ
1.
วัดประตูทอง อยู่ทางด้านหลังสุดติดกับถนนพัฒนาการทุ่งปรังและวัดชายนา
(ในปัจจุบันนี้)
2.
วัดธาราวดี (วัดไฟไหม้) อยู่ทางด้านทิศเหนือ
3.
วัดวา อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของวัดประตูทอง และทางทิศใต้ของวัดธาราวดี
4.
วัดศรภเดิม หรือวัดศรภ อยู่ทางทิศใต้บริเวณรอบ ๆ เจดีย์
5.
วัดท้าวโคตร โดยวัดเหล่านี้ในภายหลังได้กลายเป็นวัดร้างไปในที่สุด
และมีผู้สันนิษฐานว่าในปี พ.ศ. 2452 หรือประมาณ ร.ศ. 128 (พ.ศ. 2453) พระบาทสมเด็จฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะที่ยังดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
ได้เสด็จประพาสเมืองนครศรีธรรมราช หลังจากทรงนมัสการพระบรมธาตุฯแล้ว
ทรงทราบเรื่องเทวาลัยที่วัดท้าวโคตรจึงได้เสด็จไปทอดพระเนตรเทวาลัยที่ยังเป็นหลักฐานอยู่
และในวโรกาสนั้นได้ทอดพระเนตรเห็นว่าบริเวณที่ใกล้ ๆ กับวัดท้าวโคตรนั้น
มีวัดเล็กวัดน้อยตั้งเรียงรายอยู่หลายวัดย่อมไม่สะดวกต่อการปกครองของคณะสงฆ์
และคงไม่สะดวกต่อการปฏิบัติศาสนกิจ จึงทรงรับสั่งให้ยุบวัดทั้งหลายรวมกันกับวัดท้าวโคตรเดิมให้เป็นวัดเดียวกันเสีย
เรียกว่า “วัดท้าวโคตร” และทางราชการได้ออก
ส.ค. 1 และโฉนดที่ดิน เลขที่ 9868 (พ.ศ.
2518) เพื่อเป็นหลักฐานแสดงสิทธิ์ถือครอง คำว่า “วัดท้าวโคตร” นั้น น้อม อุปรมัย ได้ให้ความเห็นว่า
เป็นชื่อที่ประชาชนเรียกกันเองในฐานะเป็นกษัตริย์พระองค์แรก
แต่ชื่อที่ปรากฏต่อมาที่นักประวัติศาสตร์เรียกตามพราหมณ์ในอินเดีย ส่วนชื่อ “วัดศรภ” นั้น คงสืบเนื่องมาจากการถวายพระเพลิงศพ
พญาศรีธรรมโศกราชที่ 1 ชื่อของพญาศรีธรรมโศกราชนั้นเป็นชื่อของกษัตริย์ที่สร้างเมืองนครศรีธรรมราช
ซึ่งปรากฏอยู่ในตำนานเมืองนครศรีธรรมราช และตำนานพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช
เรื่องเล่าความเป็นมาของ
“วัดท้าวโคตร” นั้น
ราษฎรในบริเวณใกล้เคียงมีความเชื่อว่าเกี่ยวพันกับพระยาศรีธรรมาโศกราชและนางเลือดขาวซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในตำนานและนิทานพื้นบ้านของชาวใต้
สำหรับส่วนที่เกี่ยวกับวัดท้าวโคตร เฉลียว เรืองเดช
ได้เรียบเรียงไว้ในสารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ เล่มที่ 4 ดังนี้
พระยาศรีธรรมาโศกราชที่ 1
หรือชาวบ้านเรียกกันในฐานกษัตริย์ซึ่งทรงสร้างเมืองนครศรีธรรมราชเป็นพระองค์แรกว่า
“ท้าวโคตร” ได้ขุดกำแพงดินและคูน้ำล้อมรอบเมือง
มุมกำแพงทุกมุม ให้ตั้งตุ่มใบใหญ่ใส่น้ำเต็มตุ่มอยู่มิได้ขาด กันข้าวยากหมากแพง
ฝังหลักเมืองไว้ในบริเวณดังกล่าว สำหรับเทวสถานและเทวลัยได้สร้างขึ้นไว้ ณ
สถานที่แห่งหนึ่ง ตรงที่เรียกว่า วัดท้าวโคตรปัจจุบันไว้สำหรับประกอบศาสนกิจ
ตามลัทธิศาสนาพราหมณ์
เทวาลัยที่ท้าวโคตรสร้างขึ้นนี้มีรูปพรรณสันฐานคล้ายปล้องกลมก่อด้วยอิฐโดยรอบ
เส้นผ่าศูนย์กลางยาวประยาวประมาณ 5 วา สูง 8 วา ตอนบนสุดไม่มียอด แต่มีฐานแยกขึ้นเป็นแท่นทางทิศตะวันออก สูงประมาณ 2 ศอก กว้างประมาณ 1 วา
ตอนหน้าแท่นมีหินสีขาวก้อนสี่เหลี่ยมกว้างเกือบ 2 ศอก
ยาวประมาณ 3 ศอก ตรงกลางขุดเป็นแอ่งสำหรับรองรับน้ำฝน
ซึ่งถือกันว่าเป็นน้ำที่พระพรหมบนสรวงสวรรค์ประทานลงมา
ตรงกลางปล้องมีช่องกลมเล็กขึ้นไปจากฐาน มีบันไดอิฐจากฐานขึ้นถึงลานข้างบน
ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 6 ตารางวา
ส่วนเหนือจากที่ทำเป็นแท่นกลายเป็นที่ว่าง ต่อมาใช้เป็นที่ถวายพระเพลิงพระศพของท้าวโคตร
เทวาลัยดังกล่าวยังปรากฏให้เห็น เมื่อถวายพระเพลิงแล้วบริเวณนั้นก็ค่อย ๆ
กลายเป็นที่รกร้างมีสภาพเป็นป่า ประชาชนส่วนใหญ่ตั้งบ้านเรือนอยู่รอบ ๆ
ตัวเมืองแต่ไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสถานที่สำคัญ
เพียงแต่เว้นเป็นช่องทางเดินเข้าออกที่จะไปประกอบพิธีบนเทวาลัยเท่านั้น
ประมาณ
พ.ศ. 1535
– 1592 ศาสนาพราหมณ์เสื่อมลงศาสนาพุทธเข้ามาแทนที่บริเวณรอบ ๆ เทวสถานที่ไม่สำคัญก็ถูกชาวบ้านบุกรุกที่ทำกินและสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
ส่วนเทวาลัยที่สำคัญๆ ชาวบ้านไม่กล้าแตะต้อง ดังนั้น ศาสนาพุทธที่กำลังขยายตัวอย่างแรงกล้าก็เข้ามาแทนที่
ผู้เป็นหัวแรงในการสร้างกุฏิ วิหาร โรงธรรม อุโบสถ
ขึ้นแทนตามตำนานเมืองนครศรีธรรมราชได้กล่าวไว้ว่า คือ นางเลือดขาว
นางได้ร่วมกับพุทธสนิกชน เป็นผู้สร้างสถานที่ของศาสนาพราหมณ์
จึงกลายเป็นสถานที่ของศาสนาพุทธเกือบทั้งหมดแม้แต่เทวสถาน
เทวาลัยที่วัดท้าวโคตรก็กลายเป็นวัด เรียกว่า “วัดท้าวโคตร”
มีพระสงฆ์จำพรรษาและสร้างอุโบสถวิหารขึ้นให้เป็นสัญลักษณ์ของพุทธศาสนาส่วนเทวสถานที่ทำด้วยอิฐที่รูปเป็นปล้องสูง
ดังกล่าวก็ยังเหลือให้เห็นจนกระทั่งบัดนี้
ส่วนที่ตั้งเป็นวัดท้าวโคตรก็อยู่ในวงแคบ คืออยู่ตรงบริเวณตอนหน้าและตอนหลังของเทวลัยที่เป็นปล้องสูงส่วนบริเวณโดยรอบซึ่งเป็นส่วนของเทวสถานพราหมณ์
ชาวพุทธก็ชวนกันเข้าตั้งวัดกันเป็นการใหญ่อีกหลายวัด คือ วัดวา วัดประตูทอง
วัดธาราวดี หรือ “วัดไฟไหม้” ที่ดินที่เหลืออยู่ซึ่งเป็นที่ตั้งเทวาลัยกับบริเวณทางทิศเหนือเทวาลัยรวมกันเป็น
“วัดศรภเดิม” ใช้ที่ว่างตอนหลังเทวาลัยไปทางทิศตะวันตกเป็นที่ตั้งวังของ
“นางเลือดขาวเจ้าแม่อยู่” แต่ประชาชนทั่วไปเรียกว่า
“วัดศรภ” (สืบเนืองมาตั้งแต่มีการถวายพระเพลิงพญาศรีธรรมโศกราชที่
1) เมื่อนางเลือดขาวได้สร้างวัดพุทธสำเร็จ นางก็ลาจากวัดศรภไปเพื่อสร้างวัด
และสาธารณสถานในที่อื่นอีก ก่อนออกจากเมืองนครศรีธรรมราชไป
นางให้รวมที่ตั้งวัดกับบริเวณวังเข้าเป็นสถานที่แห่งเดียวกันแล้วตั้งชื่อว่า “วัดท้าวโคตร” เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่กษัตริย์ปฐมวงศ์
คือพญาศรีธรรมาโศกราชที่ 1 (ท้าวโคตร)
จากการสัมภาษณ์
ดิเรก พรตะเสน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านคดีชนวิทยา
ได้ความว่าแต่เดิมนั้นในบริเวณวัดท้าวโคตรจะมีกำแพงอิฐอยู่ทางด้านหน้าอุโบสถ
และวิหาร โดยมีประตูอยู่ทางด้านหน้าอุโบสถ
และตกแต่งโดยทำเป็นรูปช้างโผล่หัวออกมาจากซุ้ม
ต่อมาได้รื้อกำแพงดังกล่าวลงแล้วก่อเป็นกำแพงวัดใหม่ดังปรากฏในปัจจุบันหลักฐานต่าง
ๆ ที่ปรากฏ สันนิษฐานได้ว่า บริเวณนี้แต่เดิมคงรู้จักกันในนามว่า “วัดศรภเดิม” โดยอาศัยจากหลักฐานต่าง ๆ ที่ปรากฏ
ต่อมาเมื่อมีการรวบรวมวัดเข้าด้วยกันจึงเปลี่ยนเป็น “วัดท้าวโคตร”
โดยโบราณวัตถุสถานต่าง ๆ ที่ปรากฏภายในเขตวัดมีการยืนยันวาเป็นของวัดสบเดิม
อาทิ ชุมชนศึกษาวัฒนธรรมโบราณคดี ได้อ้างถึงการสมภาษณ์กระจ่าง โชติกูล
ว่าองค์เจดีย์ที่ปรากฏอยู่เป็นของวัดสบเดิม วิเชียร ณ นคร และคณะก็ได้กล่าวถึง
องค์เจดีย์ในบริเวณวัดศรภนี้
ว่ารวมอยู่ในเขตวัดท้าวโคตรเช่นกันโบราณวัตถุสถานที่สำคัญของวัดท้าวโคตร
กิจกรรมของวัดท้าวโคตร
กราบไหว้พระประธานในอุโบสถพระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิ
พระหัตถ์ซ้ายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางพาดพระชงฆ์ เป็นการแสดงมุทราที่เรียกว่า “ภูมิสปรศมุทรา” ซึ่งใช้แสดงถึงฉากพญามารเข้าขัดขวางการบรรลุสัมโพธิญาณของพระองค์
ครานั้นพระองค์จึงได้เลื่อนพระหัตถ์ขวาแตะธรณี
เพื่อเรียกพระแม่ธรณีขึ้นแม่เป็นเป็นพยานแทนบุญบารมีที่พระองค์เคยสั่งสมในอดีตชาติ
และการเข้าชมโบราณวัตถุข้างใน
ที่ตั้งแหล่งโบราณคดีวัดท้าวโคตร
วัดท้าวโคตร ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน
บ้านนาเดิม หมู่ที่ 2 ตำบลนา อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองนครฯ
ภายในวัดท้าวโคตรมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณสถานที่สำคัญคือ ซากเจดีย์โบราณ
สูงประมาณ 11 เมตร ฐานเจดีย์มีลักษณะเป็น รูปสี่เหลียมผืนผ้า
เจดีย์สร้างด้วยอิฐและดินเหนียว ลักษณะและสภาพของโบราณคดีแห่งนี้
เป็นแหล่งโบราณคดีที่ตั้งอยู่บนสันทรายเก่านครศรีธรรมราช
โดยตั้งอยู่ระหว่างเมืองโบราณนครศรีธรรมราช กับเมืองโบราณพระเวียง
โดยตั้งอยู่ห่างจากเมืองโบราณทั้งสองแต่เพียงเล็กน้อย
ทางด้านทิศเหนือมีคลองสำคัญไหลผ่านคือคลองป่าเหล้า และทางด้านทิศไต้มีคลองสวนหลวงไหลผ่าน
แต่เดิมในบริเวณนี้มีอยู่ 6 วัด คือ วัดศรภเดิม วัดวา วัดธาราวดี
วัดประตูทอง และวัดท้าวโคตร จนในที่สุดจึงมีการรวมเป็นวัดเดียวกัน คือ วัดท้าวโคตร
ในปัจจุบัน
เส้นทาง
ที่มา http://wattaocoat.blogspot.com/2010/06/blog-post_12.html
สถานที่ใกล้เคียง
สำนักวิปัสสนากรรมฐานวัดชายนา,วัดโคกธาตุ,วัดบ้านนาลาย,วัดโคกธาตุ,วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
ช่องทางการติดต่อ
ที่อยู่ : กุฏิเจ้าอาวาส
พระครูวิจิตร บุญสาร 96 ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง
อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัด นครศรีธรรมราช 80000 โทรศัพท์
: 0-7534-1079
วันและเวลาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว
วัดท้าวโคตร
เปิดเช้าชมวันจันทร์-วันอาทิตย์ เวลา
08.00 น. ถึง 16.30 น.
ผู้รับผิดชอบ
เจ้าอาวาสวัดท้าวโคตร มีดังนี้
พระครูอุดมสมถกิจ
เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. 2480 ถึง พ.ศ. 2523
พระครูวิจิตรบุญสาร
เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2539
พระสมุห์ปราโมทย์ ปสุโต
เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. 2539 ถึง ปัจจุบัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น